กำจัดปลวกระยอง

🔬 หลักการทำงานทางวิชาการในการกำจัดปลวก

การกำจัดปลวกตามหลักวิชาการไม่ได้เน้นแค่การฆ่าปลวกที่เห็น แต่เน้นการ ควบคุมประชากรปลวกทั้งรัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปลวกใต้ดิน (Subterranean Termites) ซึ่งเป็นชนิดที่พบมากที่สุดในประเทศไทย (เช่น Coptotermes gestroi)

สำหรับพื้นที่เช่น ระยอง ซึ่งเป็นพื้นที่เมืองผสมอุตสาหกรรมและมีสภาพอากาศร้อนชื้น หลักการกำจัดจะอ้างอิงตามหลักการจัดการแมลงแบบผสมผสาน (Integrated Pest Management: IPM) โดยมี 2 วิธีหลักที่ใช้ในการควบคุม:

1. ระบบการสร้างแนวป้องกันสารเคมี (Chemical Barrier System)

วิธีนี้เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยมีหลักการคือการ สร้างชั้นดินอาบยา หรือ แนวป้องกันเคมี (Chemical Barrier) รอบโครงสร้างอาคารเพื่อป้องกันไม่ให้ปลวกใต้ดินเข้าถึงตัวบ้านได้

หลักการทำงาน

• การอัดสารเคมีลงดิน (Soil Treatment): ช่างผู้เชี่ยวชาญจะทำการ เจาะพื้น (คอนกรีต) รอบ ๆ ตัวบ้านและภายในอาคารในจุดที่เสี่ยง (เช่น บริเวณที่มีรอยแตกหรือห้องน้ำ) โดยมีระยะห่างตามมาตรฐาน (เช่น ทุก 30-50 ซม.) แล้ว อัดสารเคมีกำจัดปลวก ชนิดน้ำลงไปใต้พื้นดินในปริมาณที่กำหนด

• การสร้างแนวป้องกัน: เมื่อสารเคมีซึมลงสู่ชั้นดิน จะเกิดเป็น แนวกั้นเคมีต่อเนื่อง ที่มีความลึกประมาณ 30-45 ซม. เพื่อสกัดกั้นเส้นทางเดินของปลวกที่มาจากดิน

• สารเคมีที่ใช้:

• Non-Repellent Termiticides (ชนิดไม่ไล่): เป็นกลุ่มสารเคมีสมัยใหม่ เช่น Fipronil หรือ Imidacloprid สารเหล่านี้จะออกฤทธิ์แบบ ตายช้า และปลวกจะไม่รู้ตัวว่ากำลังเดินผ่านหรือสัมผัสสาร เมื่อปลวกงานสัมผัสสารและนำกลับไปป้อนปลวกตัวอื่นในรัง (ผ่านการเลียทำความสะอาด หรือการป้อนอาหาร/Trophallaxis) จะทำให้สารเคมี แพร่กระจาย ไปทั่วรังและทำให้ปลวกตายยกรังในที่สุด

• สารเคมีต้องได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และใช้โดยผู้ควบคุมวัตถุอันตรายที่ผ่านการอบรมเท่านั้น

2. ระบบเหยื่อกำจัดปลวก (Baiting System)

วิธีนี้เป็นทางเลือกที่เน้นการกำจัดรังปลวกจากภายใน โดยไม่ต้องใช้สารเคมีในปริมาณมากหรือเจาะพื้น เหมาะสำหรับอาคารที่สร้างเสร็จแล้วหรือพื้นที่ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีในดิน

หลักการทำงาน

• การสำรวจและติดตั้งสถานี: สำรวจและติดตั้ง สถานีเหยื่อ (Bait Station) ตามเส้นทางเดินของปลวก (บนดิน/บนโครงสร้าง) หรือสถานีเหยื่อแบบฝังดิน (In-Ground) รอบอาคาร

• การใช้สารยับยั้งการลอกคราบ: เมื่อปลวกงานเข้ามาในสถานี จะถูกดึงดูดด้วยเหยื่อซึ่งมีส่วนผสมของสาร Insect Growth Regulator (IGR) หรือ สารยับยั้งการลอกคราบ (เช่น สารในกลุ่ม Benzoylphenyl Urea)

• การแพร่สารสู่รัง (Trophallaxis): ปลวกงานจะนำเหยื่อที่มีสารยับยั้งการลอกคราบนี้กลับไปป้อนให้แก่ปลวกตัวอื่น ๆ ในรัง รวมถึงปลวกทหาร ปลวกสืบพันธุ์ และ ปลวกนางพญา

• การตายยกรัง: เมื่อถึงกำหนดเวลาลอกคราบตามวงจรชีวิต ปลวกที่ไม่สามารถลอกคราบได้ (เพราะได้รับสาร IGR) จะไม่สามารถเจริญเติบโตต่อไปได้และจะตายในที่สุด ปลวกนางพญา ซึ่งเป็นผู้ผลิตประชากรปลวก เมื่อได้รับสารก็จะหยุดวางไข่หรือตาย ทำให้ประชากรปลวกลดลงอย่างรวดเร็วและ รังล่มสลาย ไปในที่สุด

• การติดตามผล: ต้องมีการตรวจเช็คเหยื่อเป็นระยะจนกว่าปลวกจะกินเหยื่อหมดและไม่มีร่องรอยการทำลายอีก

สรุป: การกำจัดปลวกในพื้นที่ระยองและพื้นที่อื่น ๆ ตามหลักวิชาการ มักจะเริ่มต้นด้วยการ สำรวจวินิจฉัย (Identification) ปัญหาปลวกใต้ดิน และเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งอาจเป็นระบบ เคมี (Barrier) หรือระบบ เหยื่อ (Baiting) หรือ การผสมผสาน (IPM) เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถควบคุมประชากรปลวกได้อย่างถาวรและปลอดภัยที่สุด