รับอัดน้ำยาปลวกระยอง


ติดต่อเรา
สำนักงาน :033148833  สายด่วน ตลอด 24 ชม. 0925285833

เราคือผู้เชี่ยวชาญฉะเพราะด้านกำจัดปลวก และ แมลง และทีมงานมืออาชีพ มากว่า 10 ปีมีนักวิชาการให้คำแนะนำลูกค้า ปรึกษาฟรี สำรวจหน้างานฟรี แก้ไขปัญหาภายใน 48 ชั่วโมง บริการกำจัดปลวกกำจัดมด มด หนู แมลงสาบ เห็บมัด แมลงรบกวนทุกชนิดบริการติดตั้งกล้องวงจรปิด จำหน่ายกล้องวงจรปิด ซ่อมกล้องวงจรปิด

เราพร้อมทำงานแบบมืออาชีพ ปฎิบัติงานด้วยวิธีที่ถูกต้อง คำนึงถึงความปลอดภัย พร้อมกำจัดปลวก ได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ รับประกันงานบริการตลอดระยะเวลาสัญญา เพื่อให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุด จากบริการ และความเป็นมืออาชีพจากเรา
1. หลักการทำงาน

จังหวัดระยองมีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น (Tropical Climate) มีฝนตกชุกเฉลี่ย 1,000–1,500 มิลลิเมตรต่อปี และมีพื้นที่ดินที่มีความชื้นสูงตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นสภาวะที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของปลวกใต้ดิน (Subterranean Termite) โดยเฉพาะชนิด Coptotermes gestroi ซึ่งเป็นชนิดที่สร้างความเสียหายต่ออาคารและโครงสร้างไม้มากที่สุดในภาคตะวันออกของประเทศไทย

การอัดน้ำยากำจัดปลวก (Soil Injection Termiticide Treatment) เป็นวิธีการควบคุมและป้องกันปลวกในระดับวิศวกรรมโครงสร้าง ซึ่งมีพื้นฐานทางวิชาการมาจากหลักการ “สร้างแนวสารเคมี (Chemical Barrier)” เพื่อป้องกันไม่ให้ปลวกใต้ดินเข้ามาในอาคารจากชั้นดิน


2. วัตถุประสงค์ของการอัดน้ำยาปลวก
  1. เพื่อสร้างแนวป้องกันสารเคมี (Chemical Barrier) รอบโครงสร้างอาคาร

  2. เพื่อป้องกันการเข้าทำลายของปลวกใต้ดินจากชั้นดินเข้าสู่อาคาร

  3. เพื่อควบคุมประชากรปลวกที่อาศัยอยู่ในดินบริเวณรอบโครงสร้าง

  4. เพื่อยืดอายุการป้องกันปลวกในระยะยาว (3–5 ปี) โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น จังหวัดระยอง


3. หลักการทางวิชาการของระบบอัดน้ำยา
3.1 หลักการสร้างแนวสารเคมีในดิน

การอัดน้ำยาปลวกคือการฉีดพ่นสารเคมีในกลุ่ม Termiticide ลงสู่ดินในระดับความลึกที่ปลวกอาศัยอยู่ (โดยทั่วไปประมาณ 30–50 เซนติเมตร) เพื่อให้สารเคมีแทรกซึมกระจายรอบฐานรากของอาคาร กลายเป็นแนวป้องกัน (Barrier) ที่ปลวกไม่สามารถผ่านได้

สารเคมีที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นสารออกฤทธิ์ในกลุ่ม

  • Fipronil 2.5–5% W/V (non-repellent type)

  • Imidacloprid 10% W/V

  • Chlorpyrifos 40% EC (repellent type)

โดยเลือกใช้ตามลักษณะพื้นที่และระดับการระบาดของปลวกในพื้นที่จังหวัดระยอง


3.2 กระบวนการอัดน้ำยา (Injection Process)
  1. การสำรวจพื้นที่ (Site Assessment)
    นักวิชาการตรวจสอบโครงสร้าง พื้นที่โดยรอบ และระบบฐานรากของอาคาร เพื่อกำหนดแนวอัดสารเคมีอย่างเหมาะสม

  2. การกำหนดจุดอัดสาร (Injection Point Design)

    • ระยะห่างระหว่างจุดอัดมาตรฐานอยู่ที่ 30–50 เซนติเมตร

    • ใช้สว่านขนาด 1/2–5/8 นิ้ว เจาะทะลุพื้นคอนกรีต

    • ความลึกของรูเจาะ 30–40 เซนติเมตร เพื่อให้สารเคมีกระจายถึงชั้นดินที่ปลวกอาศัยอยู่

  3. การอัดสารเคมี (Termiticide Injection)

    • ใช้เครื่องอัดแรงดันสูง (Pressure Injector) ที่มีหัวฉีดแบบปลายแหลม (Injector Rod)

    • ปริมาณการอัดสารอยู่ที่ 5–10 ลิตรต่อตารางเมตร ขึ้นอยู่กับประเภทของดิน

  4. การอุดปิดรูเจาะ (Sealing Process)
    • หลังการอัดสารแล้วต้องอุดปิดรูเจาะด้วยปูนซีเมนต์เพื่อความเรียบร้อยและป้องกันการระเหยของสารเคมี


4. ปัจจัยทางวิศวกรรมและสิ่งแวดล้อมในจังหวัดระยอง

จังหวัดระยองมีพื้นที่ดินที่มีองค์ประกอบของทรายสูง (Sandy Loam) ทำให้การซึมผ่านของน้ำยาเร็ว จำเป็นต้องควบคุมแรงดันและปริมาณการอัดสารให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดการรั่วซึมหรือไหลออกนอกแนวที่ต้องการ

นอกจากนี้ ความชื้นในอากาศและปริมาณฝนมีผลต่ออายุการคงอยู่ของสารเคมีในดิน ดังนั้นจึงควร ตรวจสอบและเติมสารเคมีซ้ำทุก 3–5 ปี เพื่อคงประสิทธิภาพของแนวป้องกัน


5. มาตรฐานสารเคมีที่ใช้

สารเคมีทุกชนิดที่บริษัทใช้ต้องขึ้นทะเบียนกับ

  • สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

  • กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
    และต้องผ่านการรับรองตามมาตรฐาน FAO/WHO Specifications


6. การควบคุมคุณภาพและความปลอดภัย
  1. เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องผ่านการอบรมด้านความปลอดภัยในการใช้สารเคมี (Pesticide Safety Training)

  2. ต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ได้แก่ หน้ากากกันสารเคมี ถุงมือยาง รองเท้าบูท และชุดป้องกัน

  3. พื้นที่ปฏิบัติงานต้องมีการกั้นเขตและติดป้ายเตือน เพื่อป้องกันการสัมผัสสารเคมีโดยไม่ได้ตั้งใจ

  4. มีการบันทึกข้อมูลปริมาณสารเคมีและจุดอัดสารในแบบฟอร์ม Termiticide Injection Record ทุกครั้ง


7. การติดตามผลและประเมินประสิทธิภาพ

หลังการอัดน้ำยา บริษัทจะทำการตรวจสอบซ้ำทุก 6 เดือน เพื่อประเมินผลความต่อเนื่องของแนวสารเคมี โดยใช้วิธี

  • ตรวจสอบทางเดินดินของปลวก (Mud Tube Observation)

  • ใช้เหยื่อตรวจสอบ (Monitoring Bait) ในจุดเสี่ยง
    หากพบสัญญาณการเข้าทำลาย จะทำการอัดซ้ำทันทีภายใต้เงื่อนไขของสัญญารับประกัน


8. สรุปเชิงวิชาการ

การอัดน้ำยาปลวกในจังหวัดระยองเป็นกระบวนการทางวิศวกรรมที่อาศัยหลักการทางกีฏวิทยา (Entomology) และเคมีสิ่งแวดล้อม (Environmental Chemistry) เพื่อสร้างแนวป้องกันสารเคมีในดิน ลดความเสี่ยงจากการเข้าทำลายของปลวกใต้ดิน โดยต้องอาศัยการออกแบบ การควบคุมปริมาณสาร และการติดตามผลอย่างเป็นระบบ

แนวทางนี้ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันปลวกในอาคารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ชื้นสูง เช่น จังหวัดระยอง ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการระบาดของปลวกตลอดปี